วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Mokka Since 1964

ถ้าแค่มองผ่าน อาจจะคิดว่าที่นี่เป็นร้านกาแฟธรรมดาๆ แต่เมื่อแวะเข้ามาแล้วคุณจะรู้ทันทีว่า Mokka Since 1964 เป็นร้านกาแฟที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

การสรรหาเพื่อให้ได้คำว่า "ร่วมสมัย" และ "ลงตัว" บางครั้งดูเป็นโจทย์ที่ยาก เพราะท่ามกลางคนกลุ่มใหญ่มักจะมีคำว่า "ความชอบ" ที่หลากหลายเป็นเกณฑ์กำหนด แต่ก้าวแรกที่เข้าไปที่นี่ เราพบทั้งความ Modern และ Antique ที่มีทั้งความร่วมสมัยและลงตัว อย่างที่ใครหลายคนต้องชอบแน่ๆ


เพราะการตกแต่งร้านที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีทั้งการใช้ไม้และเหล็กมาวางให้ดูกลมกลืืนกับพื้นเปลือย โซฟาบุหนังสีขรึมเมื่อจัดวางใกล้มุมขนมหวานก็ดูอบอุ่น เหมือนอยู่ใกล้ผู้ใหญ่ใจดี...

"ก่อนหน้านี้เรามีร้านน้ำชาชื่อ High Tea ซึ่งเน้นสีขาวแล้ว พอมีร้านใหม่เลยอยากให้ได้อารมณ์นั่งดื่มสบายๆ ใกล้ของเดิม เลยเลือกที่จะใช้สีโทนนี้เพื่อสื่อถึงกาแฟ สำหรับคำว่า Mokka จริงๆ แล้วเป็นภาษาออสเตรียผสมกับภาษาเยอรมันน่ะ" เป็นคำแนะนำร้านที่เหมือนรู้ใจจากพี่ยุ่น - คุณฉัณฑิต สว่างเนตร เจ้าของร้านหน้าใสไอเดียบรรเจิด ที่มานั่งแนะนำอยู่ใกล้ๆ


"เราพยายามตอบสนองความต้องการของลูกค้าละแวกนี้ ที่มีทั้งกลุ่มที่ต้องการร้านกาแฟเพื่อนั่งพักหรือเพื่อนัดพูดคุยงาน กับอีกลุ่มที่ต้องการร้านอาหารเพื่อทานข้าวและสังสรรค์หลังเลิกงาน ที่ร้านนี้จึงมีทั้งอาหารเบาๆ เพื่อการนัดพูดคุยหรือปรึกษาธุรกิจยามบ่าย เช่น เค้กหรือไอศกรีม แต่กลุ่มที่ต้องการสังสรรค์หลังเลิกงาน ทางร้านก็จะมีเมนูอาหารไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับสืบทอดมาจากครอบครัว"

เมื่อเหลียวมองไปรอบร้าน เห็นข้าวของเครื่องใช้น่าสนใจเต็มไปหมด เลยอดถามไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร "ของที่ใช้ตกแต่งร้านนี้มีทั้งของที่สะสมมานาน ของที่หยิบยืมมาจากคนในครอบครััวและของที่ซื้อเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ แต่ทั้งหมดก็เกิดจากคำว่า 'ความชอบ' เป็นหลัก เพราะถ้าเราได้ทำในสิ่งที่รัก ได้ทำงานกับสิ่งที่เราชอบ ก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง"

และดูเหมือนการสร้างความสุขให้ลูกค้าจะเป็นหัวใจของร้านนี้ เพราะที่นี่ไม่ได้ต้องการแค่ให้ทุกคนอิ่มอร่อยเพียงอย่างเดียว "อยากให้ลูกค้าที่มาที่นี่มีความสุขที่นอกเหนือจากอิ่มอร่อยกลับไปด้วย แม้แต่รูปผู้หญิงเวียดนามชุดแดงที่อยู่ทางด้านหน้าก็ดูยิ้มแย้มมีความสุขนะ เป็น Inner Happiness ที่ทำให้แม้แต่ลูกค้าที่มาที่นี่ก็อดยิ้มตามไม่ได้"

ถึงที่นี่จะมีอายุเพียง 1 ปี แต่ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดูได้จากประสบการณ์ในการจัดเลี้ยงเล็กๆ ให้คู่แต่งงานที่ต้องการบรรยากาศแบบเป็นกันเอง การเป็นสถานที่เปิดตัวสินค้าแบรนด์เนม และการจัีดงานสังสรรค์ทั้งภายในและภายนอกสถานที่ "ทุกอย่างต้องดูที่รายละเอียดของงานด้วย ว่าเราสามารถทำได้เต็มที่หรือไม่ ถ้ารับงานใหญ่มาแล้วไม่สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงเราก็ไม่รับ เพราะสิ่งที่เราต้องการ คือ ขอให้ทุกคนมีความสุขให้มากที่สุดก็พอแล้ว"

ชมบรรยากาศของร้านมาจนอิ่มตาแล้ว คราวนี้เราไปชิมอาหารแสนอร่อยที่ทางร้านแนะนำกันดีกว่า "อาหารที่นี่ จะมีทั้งอาหารไทยสูตรดั้งเดิมและอาหารไทยฟิวชั่น อาหารไทยส่วนใหญ่จะมีชื่อเรียกเหมือนๆ กัน แต่ต่างกันที่เครื่องปรุงและวิธีการปรุงมากกว่า ร้านเราถึงแม้จะเป็นสูตรไทยดั้งเดิม แต่ก็จะนำผักหรือผลไม้ตามฤดูกาลมาประยุกต์อยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์นะ อย่างเช่นแกงเผ็ดเป็ดย่างที่นี่ ถ้าเป็นฤดูลำไยเราก็จะใส่ลำไยด้วย แม้แต่ขนมฝรั่งก็ตาม บางช่วงที่มีสตรอเบอร์รี่เยอะ เราก็จะนำมาตกแต่งเค้กหรือทำเป็นไอศกรีมแทน"

ทุกอย่างสำหรับที่นี่ดูเต็มไปด้วยดีไซน์ ที่นอกจากจะออกแบบบรรยากาศภายในร้านให้ดูอบอุ่นแล้ว ยังออกแบบอาหารแต่ละจานด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การคิดเมนูและคัดสรรส่วนผสม เหมือนทำอาหารให้คนในครอบครัวทาน

เมื่อเจอร้านน่ารัก น่านั่งอย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม มาลองพิสูจน์ความอบอุ่น ผ่อนคลายและอร่อยกับพวกเราไหมคะ

ที่อยู่ : 45/4-8 ถ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร : 0-2254-5699
เปิดบริการทุกวัน 11.00 - 22.00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น